หากต้องเดินทางไปไหนสักที่ไกลๆในการสิ้นสุดการเดินทางในแต่ละครั้งมักจะเหนื่อย เมื่อย เพลีย อ่อนล้า ร่างกายเรามันส่งสัญญาณเหล่านี้ได้ สำหรับจิตใจและความคิดเราหละมันเดินทางในแต่ละวันไปโน่นมานี่มากมายหากเทียบวัดค่าความเร็วได้มันคงเป็นการเดินทางที่ไวกว่าแสง ไกลกว่า ไวกว่า กับการเดินทางของจิต วิ่งไปมาจากตัวเราไปโน่นมานี่ตลอดเวลา บางวันถึงกับไม่ยอมกับมาหาตัวเราก็มี หลงเพลิดเพลินกับแสงสีที่ไหนไม่ทราบ มันมีสัญญาณเตือนมั๊ยว่า มันเหนื่อย มันล้า มันไม่ไหวแล้วว..
ตัวเราอยู่ที่นี่ตรงนี้ ความคิดจิตใจ เดินทางกลับไปในอดีตหลายสิบปีในชั่วพริบตาเดียว รู้ตัวอีกทีก็แว๊ปกลับมาที ดูไม่ดี มันแว๊บไปอีกแล้ว บางทีไปนาน จิตเราก็ไปฟุ้งซ่านโดดเดี่ยวอยู่ที่ไหนไม่รู้
ในบางเวลายังเดินทางผ่านทะลุมิติ ไปสร้างฉากสร้้างภาพในอนาคตให้น่าขบคิดอีกด้วย
ทำไมเราปล่อยให้ความคิดจิตใจกับกายของเราน้อยนักที่จะอยู่ด้วยกันในปัจจุบัน ซี่งมักจะต่างคนต่างอยู่ มันจะเหนื่อยบ้างมั๊ยน๊ากลับการเดินทาง
การพยายามให้จิตกับกายมันเกาะเกี่ยวอยู่ในที่และเวลาเดียว ด้วยกันนั้น เคล็ดลับของพระพุทธเจ้าบอกไว้อย่างสั้นๆคือการมีสติ การใช้สติประสานจิตกับกายให้อยู่ด้วยกันนั้น จะทำให้เราอยู่ในเวลาที่เป็นมิติเดียวกันคือช่วงเวลาปัจจุบัน
การรู้ตัว การมีสติ ตามความคิดเรากับมาอยู่กับตนเองในปัจจุบัน ต้องอาศัยการฝึกฝนกันบ่อยๆ ความคิด หรือตัวจิต บางทีมันเดินทางสะเปะสะปะไปมา ต้องใช้ความตั้งใจพอสมควรเพื่อรวบรวมให้กลับมาอยู่ในจุดเดียวกันในเวลานี้หรือปััจจุบันนี้
หากฝึกสติได้อย่างเข้มแข็งแล้วความคิดและจิตใจคงไม่ต้องอ่อนล้ากับการเดินทางไกลอีกต่อไป หากทำให้ได้สัมผัสลมหายใจกับอากาศที่สดชื่นในเวลานี้ แล้วทีนี้พอสิ่งใดมากระทบ เฝ้าดูมันด้วยใจที่มีสติ แล้วจะเห็นว่า มันก็เพียงเข้ามาและอ่อนล้ากลับไป เอาสติเป็นปราการต้านไว้ไม่ให้สิ่งใดๆมานำพาความคิดและจิตใจล่องลอยไปมาอย่างไร้ทิศทางอีก
สิ่งที่ได้เขียนมานี้ เกิดจากทั้้งจากการอ่าน การศีกษาและจากประสบการณ์การทดลอง ลองคิด ลองทำ ลองวิเคราะห์ แล้วก็ค้นหาโลกด้านในตนเอง ก็ดีบ้าง ล้มเหลวบ้าง ก็ค่อยๆทำกันไป
ในตอนนี้ชาวตะวันตกกำลัง หันกลับมาสนใจแนวความคิดของชาวตะวันออกอย่างเราในด้านจิต วิญญาน ของมนุษย์ ซี่งมีคำสอนแนวทางในการปฏิบัติสืบทอดมายาวนานตั้งแต่โพ้นกาลสองพันกว่าปีโน้นแล้ว ในโลกตะวันตกหลังจากเดินทางออกนอกโลก ไปลอยเคว้งคว้างในอวกาศ ที่ไกลแสนไกล แต่เขาเพิ่งได้รู้สึกตัวว่า ในโลกด้านในของร่างกายมนุษย์ที่กว้างแค่ศอก ยาววา หนาแค่คืบเนี่ย พวกเขายังได้ได้เริ่มสักก้าว
การเดินทางในด้านในด้านจิตวิญญาณ ไม่ต้องอาศัยการเคลื่อนไหวเพียงแค่หยุดนิ่ง มันก็เป็นการอุ่นเครื่อง พร้อมทะยานแล้ว จากนี้ ก็ควบคุมการเดินทางในทิศทางของแต่ละคนกัน ให้นิ่งที่สุด ก็จะถึงจุดหมายเร็วที่สุด
ไม่มีการลงทุนทางทรัพย์สินเงินทองใดๆในการเดินทางเข้าไปในโลกด้านในตนเอง เพียงแต่ระหว่างการเดินทาง อย่าเผลอไผลให้ความคิดจิตใจหลุดลอยออกนอกเส้นทาง ไม่งั้นระยะทางแค่กว้างคืบยาววาหนาศอกนี้คงอีกแสนไกลและใช้เวลานานอยู่ กว่าจะเข้าถึง
เพราะมัวแต่สเปะสะปะตามหาความคิดจิตใจให้กลับมา
อ้าว...แว๊ปไปอีกแล้ว เดี๋ยวมานะ
ไปตามกลับมาก่อน
No comments:
Post a Comment