Sunday, August 17, 2008

เมล็ดพันธ์ุแห่งปัญญาได้ถูกโปรยหว่านแล้วในไอซ์แลนด์


ุคุณแม่ กับน้องจ๋าที่พักอาศัยอยู่ในไอซ์แลนด์

การเยี่ยมเยือนชาวไทยในประเทศไอซ์แลนด์ครั้งแรกครั้งนี้ของแม่ชีศันสนีย์ เป็นเรื่องน่ายินดีและปลาบปลื้มเป็นของพวกเรายิ่งนัก คุณแม่รับหน้าที่เป็นวิทยากรปฏิบััติธรรมในวันแม่ ถ่ายทอดแก่นของพุทธศาสนาได้อย่างลีกซี้งแต่เข้าใจง่าย และเพลิดเพลินทีเดียว จากการได้ฟังคุณแม่สนธนาธรรมให้แก่พวกเราได้ฟังนั้น มันเป็นอะไรที่ ไม่สามารถที่จะพลาดสักคำในทุกคำพูดของคุณแม่ เแต่ละคำมีความหมาย แต่ละคำถ่ายทอดออกมาจากจิตจากใจที่นุ่มนวลและเมตตา แต่ละคำได้มาจากการเรียนรู้และศึกษาอย่างถ่องแท้ ทุกคำพูดมีนัยยะแอบแฝงให้คิด ให้เข้าใจ ให้ความชัดเจน การได้เฝ้าดูทุกอิริยาบถของคุณแม่ มันเป็นภาพที่สวยงาม ท่านเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ในใจเรา ไม่ใช่จากการได้ยินชื่อเสียงของท่าน แต่จากการได้เห็นการทำงาน การเสียสละ มันทำให้เกิดศรัทธาแบบไม่มีเงื่อนไขใดๆเลย

เมื่อได้พบเจอกับคุณแม่ ก็ตั้งคำถามขี้นในใจว่า อืมคุณแม่เป็นบุคลที่เป็นที่รู้จักและเคารพศรัทธาของคนมากมาย แต่กับการได้พบในครั้งนี้ ในทุกอิริยาบถ ภาพตรงหน้าที่ได้เห็น เป็นเหมือนผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนี่ง ช่างอ่อนน้อม ถ่อมตน สุภาพ แต่ข้้างในนั้นมีพลังแห่งการให้ยิ่งใหญ่นัก
คงจะอย่างที่คุณแม่กล่าวไว้ว่า ต้องเป็นคนที่ตัวเล็กที่ทำงานใหญ่ มันคงจะมีความหมายที่ตรงกับภาพที่ได้เห็นตรงหน้านี้

คุณแม่ได้ให้โอวาทแด่คนไทยในวันที่มีการปฏิบัติธรรมกันที่นี่ มีผู้คนที่มากันอย่างอบอุ่น ไม่มากและไม่น้อยเกินไป ที่ทำให้พวกเราได้ใกล้ชิดได้ทั่วถึงกันทุกคน นับเป็นความโชคดีจริงๆ นี่ถ้าอยู่กรุงเทพฯคงมีโอกาสเจอท่านได้ยาก เคยไปที่เสถียรอยู่หนหนี่งก็ไม่เคยเจอไม่คิดว่าจะได้มาพบท่านในดินแดนที่ไกลจากบ้านเกิดเช่นนี้

ขอเล่าในคำสอนของคุณแม่ในวันนั้นอาจจะไม่ได้ตรงทุกถ้อยคำแต่ก็เท่าที่จำประเด็นหลักๆได้
คุณแม่แนะนำและเน้นยำ้ไปที่ การกำหนดลมหายใจ เพื่อที่ให้เราได้มีความรู้ตัวทั่วพร้อม รู้ตื่น เบิกบานกับปัจจุบันขณะ หรือ Here and Now อดีตหรืออนาคตไม่ได้มีบทบาทเท่ากับปัจจุบันในขณะนี้ อีกทั้ง ยังให้รู้จักถึงการคืนไม่ฝืนไว้ ถ้าทุกคนเข้าใจและปฏิบัติได้เช่นนี้ เราจะเป็นคนที่รอดพ้นจากพายุกิเลส ไม่ว่ามันจะมาถี่หรือแรงแค่ไหน มันก็ไม่ได้ทำร้ายเราได้มากนัก
หากยังได้กล่าวเน้นถึงคุณค่าของการเป็นพ่อแม่ที่มีสัมมาทิฎฐิ ในการสร้างโลกในครรภ์ให้กับลูก ด้วยการสื่อสารสัมผัสที่โอ่นโยนและเมตตา อบรมเลี้ยงดูให้เจริญวัยด้วยความรักและความเข้าใจที่ถูกต้อง

นอกจากคำสอนที่ ลึก และ ซึ้ง นั้น ยังบวกกับกิจกรรมที่ให้ความผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ กับการทำลีลาประกอบเพลงดั่งดอกไม้บาน ทำให้ร่างกายได้มีการยืดหยุ่นในขณะปฏิบัติ และเฝ้าดูตามลมหายใจ ทุกคนได้พร้อมใจกันปฏิบัติตามด้วยความเพลิดเพลินสนุกสนาน เป็นลีลาที่น่ารักและพร้อมเพรียง ส่วนประโยชน์และแก่นที่ได้ค้นพบคือ ขณะที่ร่างกายได้ยืดเส้นสายเพื่อการออกกำลังกายนั้น ในเวลาเดียวกันก็ได้ออกกำลังใจด้วยการนิ่งสงบอยู่กับลมหายใจที่เนียนละเอียด และกับอีกกิจกรรมหนี่ง การนวดเพื่อการให้ อืม... อันนี้ทำให้เราเข้าใจประเด็นของการให้ได้อย่างชัดเจนมากๆ นับเป็นความชาญฉลาดในวิธีการ ที่ทำให้พวกเราเข้าใจและเข้าถึงได้อย่างง่าย

อย่างที่ได้บอกไว้ คำพูดของคุณแม่ทุกคำมีคุณค่าและความหมายที่ลึกซี้งเกินกว่าจะพลาดไปได้สักคำ ความศักดิ์สิทธิ์ของคำสอนอยู่ที่ศรัทธาและปฏิบัติ คุณแม่เคยกล่าวไว้ว่าไม่มีอะไรเกิดขี้้นมาด้วยความบังเอิญ ทุกอย่างมีกรรมและผลของกรรมทั้งสิ้น ผลกรรมวันนี้ ได้มาจากเมื่อวานหรือวันก่อนๆ คุณแม่เปรียบกรรมชั่วดังเกลือ ที่มันเค็มเพราะเราทำและสร้าง ถ้าวันนี้ยังสร้างเกลืออยู่มันก็ยังคงเค็ม ให้เติมน้ำดีลงไปโดยการทำกรรมดี แม้เกลือที่เราเคยสร้างมันยังเค็มอยู่แต่อย่างน้อยมันก็ยังมีน้ำดีไปเจือไม่ให้มันเค็มไปกว่านี้ เห็นมั๊ยภาพชัดเจนมากๆ

นอกจากเนื้อหาที่ได้จำประเด็นมาทั้งหมดนี้ หากได้รับฟังด้วยหูด้วยใจตนเอง จะได้รู้ว่าคำพูดที่คุณแม่เอ่ยมานั้นนอกจากได้เอื้อประโยชน์และชี้ทางแล้วยังไพเราะในถ้อยคำและน้ำเสียง ซี่งแม้ในช่วงเย็นของวันที่ปฏิบัติธรรมในวันนั้น เสีียงของคุณแม่เริ่มแผ่วและแหบแห้ง แต่พลังภายในคุณแม่ยังคงหนักแน่นและแน่วแน่
สิ่งที่เอ่ยมาทั้งหมดนี้ เป็นการน้อมใจชื่นชมคุณแม่ด้วยศรัทธา มิได้เกิดจากการฟัง และได้ยินมาเท่านั้น แต่มันได้ผ่านและสัมผัสตัวตนและความคิดของคุณแม่ในภาพที่อยู่ตรงหน้าในวันนั้น

ขอขอบพระคุณคุณแม่ที่ได้นำเมล็ดพันธุ์แห่งปัญญามาโปรยหว่านไว้ณ ดินแดนแห่งนี้
เราจะรดน้ำพรวนดินให้พันธุ์ไม้แห่งปัญญานี้เติบโต และอบอุ่น
ต่อหนาวจัดมืดนานขนาดไหน พี่ไทยเราก็มิหวั่น..

กราบขอบพระคุณ พระภิกษุสงฆ์ทุกรูปแห่งวัดไทยไอซ์แลนด์ ที่ได้เชื้อเชิญ ผู้โปรยหว่านเมล็ดพันธุ์มาถึงที่นี่

เหนืออื่นใด ของก้มกราบขอบพระคุณองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ท่านได้มอบสาวิกามาสู่โลก สู่ชาวพุทธ และมวลมนุษยชาติ ในทุกดินแดนบนผืนโลกใบนี้

ธรรมสวัสดี

________________________________________
ต่อนิด ...

สิ่งดีๆสิ่งสุดท้ายของวันปฏิบัติธรรมที่เกิดขี้นในวันนั้น
ก่อนกลับบ้านพบเจอเด็กหญิิงตัวน้อยๆสองคนนั่งเล่นกันอยู่อายุราวๆไม่เกินห้าขวบ พอเดินผ่านเด็กหญิงคนหนี่งก็ถามอะไรสักอย่างเป็นภาษาไอซ์แลนด์ ฟังไม่ออก เลยตอบไม่ได้ก็เลยถามกลับเป็นภาษาไอซ์แลนด์เท่าที่เรียนมาตอนชั้นป.1 ว่า ชื่ออะไร เด็กก็ตอบมา แล้วก็ถามต่อไปว่า บ้านอยู่ที่ไหน เด็กก็ตอบกลับมาอีก ฟังไม่ออกทั้งสองคำตอบ(ฮ่าๆ) สักพักเด็กหญิงคนเดิมก็ถามกลับมาว่าบ้านเราอยุ่ที่ไหน ก็เลยบอกชื่อสถานที่ไป เด็กทั้งสองคนมองหน้ากันพากันงงกับคำตอบ ไม่ใช่เพราะไม่รู้จักสถานที่ที่บอกไปหรอก เราเดาได้ว่าหนูน้อยทั้งสองคงฟังไม่ออกจากสำเนีียงที่เราบอกไปเป็นภาษาไอซ์แลนด์ไป สื่อสารกันไม่ได้ แต่ตอนนั้นรับรู้ได้ว่า ใจเราถึงกัน สักพักก็ละออกมาจากเด็กหญิงตัวน้อยกล่าวลา บ๊าย บาย เดินมาได้สักสองสามก้าวเด็กหญิงอีกคน ตะโกนบอกว่าว่า เบรสๆ(บ๊ายๆ)อีกรอบ พร้อมโบกไม้โบกมือมาให้ กับรอยยิ้มที่น่ารักที่ซู๊ด โห..ชื่นใจอะไรเช่นนี้ ขอบคุณคุณแม่อีกครั้งที่ได้เปิดหัวใจของเราในวันนี้ให้กว้างขี้น จนได้รับและมองเห็นอะไรเล็กๆน้อยๆแต่ใหญ่โต๊ ใหญ่โต ในใจ (^ ___^)
___________________________________________
อีกนิดส์...จริงๆ

เป็นสิ่งหนี่งที่ไม่อยากบอกแต่อดมิได้(ฮ่าๆ)
ภาพยนต์ของคุณแม่ A walk of wisdom นำมาเปิดให้พ่อหนุ่มข้างกายชาวไอซ์แลนด์ดู ไม่น่าเชื่อว่าได้ทำให้พ่อหนุ่มคนนี้ซาบและซึ้งจนแอบน้ำตาซึมเป็นระยะในขณะที่ชม (แอบเห็นมา (^_^) )

ว่าแล้วมาฝึกลมหายใจการดีกว่า






....