วันอาทิตย์...
คนข้างกาย ปกติเป็นคนที่ใช้เวลาวันหยุดเสาร์อาทิตย์ไปครี่งวันแรกกับการนอนตื่นสาย ซึ่งเขาให้เหตุผลที่ว่า นี่คือการพักผ่อนจริงๆ (อย่างนี้แถวบ้านเรียกว่าข้ออ้าง ไม่ใช่เหตุผล)
แต่กับวันนี้ เจ้าพ่อคุณตื่นมาแต่เช้า เพื่อที่จะปฏิบัติภาระกิจอย่างหนี่ง คือ ขนมเค้กวันเกิดให้ฉัน ซึ่งงานนี้ได้ขอไว้เป็นพิเศษคือ French chocolate cake แบบ สองชั้น(เน้น 2 ชั้น)
ท้าวความ...
คนข้างกายของฉันเป็นคนที่ทำอาหารไม่เป็นเลย ถึงไม่เป็นที่สุด โดยเฉพาะพวกอาหารคาว
แต่ด้วยความที่เขาเป็นคนชอบกินของหวานโดยเฉพาะช็อกโกแลตเป็นชีวิตจิตใจ ใจมันเลยฝักใฝ่
ขวนขวาย ที่จะทดลองทำให้สิ่งที่ชอบ
แล้วก็ประสบผลสำเร็จดังคาด...
จากการทดลองชิมมาทุกครั้ง
ขอบอก... อร่อยมากถึง อร่อยที่สุด
เอส แอนด์ พี, กัลปพฤกษ์ ,เนลทราเวิล ,คอฟฟี่ บีน หรือที่ไหนๆ ที่กินมา ถ้าเป็นเค้กช็อกแล้วละก็ ต้อง
พ่อหนุ่มไอซ์แลนด์คนนี้ !!
มิได้ยกยอ ปอปั้น แค่ เจ้ดัน ดันๆให้เกิดเท่านั้นเอง ฮ่าๆ
คำไหนที่มันน่าหมั่นไส้นัก ก็อ่านผ่านๆไปแล้วกันนะ.
ต่อ...
เหตุที่เขาต้องตื่นเช้าเนี่ย คือเขาเป็นคนที่ทำไรพิถีพิถันมาก คือ ง่ายๆ เป็นคนทำไรช้า..ช้า..
แต่ก็ช้าแบบให้ความตั้งใจ และรอบคอบ ซึ่งกับบางอย่างก็นะ สปีดบ้างก็ได้เพ่!
กับเช้าวันนี้ ในครัวก็ถูกยึดเต็มพื้นที่ เพื่อจัดเตรียม ส่วนผสมต่างๆ
และด้วยความที่เป็นเค้กสองชั้นเนี่ย กับ ที่มีแม่พิมพ์ในการทำเค้กอันเดียว เขาเลยวางแผน ว่า งั้นอบสองที ซี่งก็กลายเป็นว่า ทำงานเหมือนกันทุกขั้นตอน แต่ทำซ้ำเหมือนกันอีกครั้งตั้งแต่ต้นจนจบ
ฉันเลย แยกตัวออกมานั่ง browse web ไม่เป็นแม้แต่ผู้ช่วย ปล่อยพี่ท่านยึดสนามไป
(บรรยากาศในครัว)
สาธยาย ส่วนผสมที่ฉันแอบเห็นในครัว..ใครสนใจเอาสูตรไปเลยไม่ห้าม แต่วิธีนั้นมาถามเขาเอง
วิธีการ...
*ชั่ง ตวง วัด ปั่น ผสม เคี่ยว เสียงเพลง พึม..พัม..(ได้ยินในบางช่วง) เสร็จแล้ว อบ ...เวลานี้ทั้งบ้านก็จะหอม อบอวลไปหมด
เมื่อเอาออกจากตู้อบแล้วก็นำไปตากให้เย็นโดยการจับเค้กตากข้างนอกระเบียงหลังบ้านนั่นแหละ
เพราะอากาศข้างนอกเย็นกว่าในบ้านเยอะ
จบกระบวนที่หนี่ง(ชั้นแรกของเค้ก)
ผ่านไปสองชั่วโมง ได้มั้งไม่ได้ดูเวลา แต่คงประมาณนั้นไม่หนีห่าง
เริ่มต่อกระบวนที่สอง...
ก็แค่ให้กลับไปอ่านตรงประโยคยข้างบนอีกทีที่มีเครื่องหมาย * ยาวลงมาเลยนะจ๊ะ
นั่นหละอย่างที่ว่า เหมือนกอภาพฉายซ้ำ อีกที ฮ่าๆ
คือเขาบอกว่า ผสมทีเดียวไม่ได้ เคยทำแบบชั้นเดียว ก็ต้องทำแบบนั้นไป แต่ทำสองทีเอา(อืม....)
เป็นอันเสร็จ..
จากนั้นประกอบร่างเค้กโดยซ้อนเค้กให้หนาเป็นสองชั้นตรงกลางระหว่างชั้น แทรกด้วยวิปครีมที่ผสมด้วยสตอเบอรี่สดบดหยาบให้มีกลิ่นและรสชาดปนเปรี้ยวเล็ก นี่ก็ไอเดียของเขาเองแหละ เพราะตอนแรกว่าจะแทรกด้วยวิปครีมเพลนๆระหว่างชั้นเฉยๆ
จากนั้นด้านชั้นบนสุดก็ตกแต่งด้วยวิปครีมปกติแล้วโรยด้วยเกล็ดช็อกโกแลตกับสตอเบอรี่สดผ่าเป็นซีกๆเสี้ยวๆตกแต่งเพิ่มสีสันและความเปรี้ยว ให้ตัดกับรสชาติที่หวานของเนื้อเค้ก
แล้วผลงานที่ใช้เวลากว่าห้าชั่วโมงของเขาก็เป็นอันเสร็จ จับแช่ตู้เย็นเพื่อให้วิปครีมทรงตัวดี
พอลงตัวกันทั้งคนและเค้ก
ก็แบ่งปันพี่ๆน้องๆหลานๆกินกันแบบกันเองนิดหน่อย
พอมีเหลือเสี้ยวสุดท้าย เดชะบุญ!! ฉุกคิดได้ ว่าลืมเก็บภาพ เลยคว้ากล้องมายิงสักสามสี่ shot พอเอางาม
แล้วประดับประดา จัดวางlay out ภาพด้วยข้อความเล็กๆนิดหน่อยเป็นที่รำลึก
ก็ออกมาด้วยประการละฉะนี้
ก็ผ่านไปด้วยความหอม ตั้งแต่เช้า อร่อยจรดเย็นกันไป
กับความรุ้สึกขอบคุณอย่างเหลือหลายกับวันนี้ที่ทำให้
ยังไม่จบ..
ตกเย็นมีคำถามจากเขาเบาๆว่า
วันนี้ทั้งวันรู้สึกอย่างไรบ้าง กับสิ่งที่ทำให้
แหมๆ...ทำมาทวงความดี!!
ก็เลยยกยอกันไป ยิ้มแฉ่ง แก้มปริ
แล้วก็เลยตบท้ายกลับไปด้วยว่า...
จริงๆแล้วคนที่จะรู้สึกดีีที่สุดเนี่ย น่าจะเป็นตัวเขามากว่าอื่นใคร
เพราะว่ากันแบบลึกๆแล้ว การที่ทำไรให้กับคนที่รู้สึกดีๆด้วยนั้น มันอิ่มสุขมากกว่าที่ได้ทำ
อิ่มใจมากกว่าผู้รับเสียอีก..
นี่คือประโยชน์ของการให้
(โดยไม่ต้องแอบทวง) ; )
Give more
Take less
ทฤษฏีอันนี้ใช้ได้แต่เฉพาะเรื่องเค้ก และบางเรื่องเท่านั้นนะ
ส่วนเรื่องเงินนั้นก็คนละเรื่องกันปาย ตกลงกันเองแล้วกาน..
อืม...แล้วเค้กชิ้นสุดท้ายที่เหลือในจานนี้หละ
สงสัยต้องลืมทฤษฏีเค้กไปชั่วขณะด้วยเช่นกัน
...
ขอรีบไปคว้าช้อนมาก่อนนะ
.....